ช่วยตัวเองแล้วเป็นสิว เกี่ยวกันไหม

สวัสดีครับ น.ส. สยิว ผมมีเรื่องจะขอคำปรึกษาครับ
Q: ตอนนี้ผมอายุ25 ผมชอบช้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก(ตั้งแต่ร่างกายยังไม่มีน้ำเชื่อ)
A: ต๊าย...แรงนะคะ แสดงว่าต้องเป็นคนหมกมุ่นมากแน่นอนค๊าหรือไม่ก็เป็นคนที่ฮอร์โมนทางเพศสูงมากๆ

Q: ผมก็มีปัญหาเรื่องสิวมาตั้งแต่เด็กเช่นกันโดยจะเป็นสิวเยอะมากทั้งหน้าเลยมีทั้งเล็กและใหญ่บางที่สิวเม็ดเดียวมีหัวสิว3หัวด้วยกัน(คือจำไม่ได้ว่าเริ่มเป็นสิวตั้งแต่เมือไหร่คงตอน ม.ต้น) แล้วผมสังเกตุตัวเองพบว่าหาเมื่อผมหยุดช่วยตัวเองไปสัก 1-2 อาทิตย์ สิวบนหน้าผมก็แห้งหายไปเอง พอผมช่วยตัวเองครั้ง หรือ สองครั้ง สิวก็เกิดขึ้นใหม่อีก เป็นเพราะผมช่วยตัวเองใช้ไหมครับ แต่หน้าผมรูขุมขนกว้างด้วย แต่ผมว่าผมล้างหน้าสะอาดมากแล้วนะคับก็ยังเป็น บางคนซกมกกว่าผมอีกไม่เห็นเป็นสิวสักเม็ด (ผมช่วยตัวเองบ่อยประมาณ อาทิตย์ละ 3-4ครั้ง)

A: จริงๆแล้วเนี่ย การช่วยตัวเองไม่ได้มีส่วนให้เกิดสิวหรอกนะจ๊ะ แต่อาจจะมีผลโดยทางอ้อม เช่น เกิดหน้ามัน ความสกปรก อาจทำให้เกิดสิวได้ แต่ในอีกแง่หนึ่งการที่ช่วยตัวเองมากๆ ทำให้น้ำเชื้อออกมาเยอะๆ ดังนั้นสารอาหารที่เป็นประโชยน์ที่นำไปใช้ในการบำรุงผิวหน้า เช่น วิตามิน สังกะซี หรือ สารอื่นๆ จะถูกดึงมาใช้มากเพื่อทดแทน น้ำเชื้อที่สูญเสียไป ผิวหน้าของคุณน้องเลยขาดสารทีจำเป็นต่อผิวหน้า ซึ่งนำพาสิวมายังไงละจ๊ะ  ในทำนองเดียวกันถ้าเลิกช่วยตัวเอง สิวก็จะไม่เกิดนั้นแสดงว่า สารอาหารที่ผิวได้รับไม่มีการสูญเสียมันเลยช่วยไปบำรุงผิวหน้าของเรายังไงถามว่าคนอื่นไม่เห็นเป็นเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น ร่างกายคนเราไม่เหมือนกันครับ บางคนมีพื่นฐานดี สารต่างๆหล่อเลี้ยงผิวมาตั้งแต่เด็ก มีผิวเนียนระเอียด อยู่แล้วพวกนี้ อาจเป็นน้อย แต่หากวิถีชีวิตเปลี่ยนไป ขาดการดูแลเรื่องสารอาหารจำเป็น แน่นอนผิวมีโอกาสเสื่อมโทรมได้

เครดิต:http://gossipstar.mthai.com/zupzip-content/24037

แชมป์ช่วยตัวเองนานที่สุดในโลก (โอ้ ! แม่เจ้า)

มาซาโนบุ เจ้าของสถิติผู้ที่ช่วยตัวเองได้นานที่สุดในโลก ด้วยเวลาเกือบ 10 ชั่วโมง (9 ชั่วโมง 58 นาที) โดยไม่หยุดพัก !! o,O แถมยังเป็นเจ้าของสถิติมาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งยังไม่มีใครล้มได้ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้เผยว่า เหตุเกิดมันมาจากแฟนสาวหน้าตาน่ารักของเขาไม่ค่อยจะมีอารมณ์อย่างว่าเท่า ไหร่ ในขณะที่เขาเองก็มีมากเหลือแหล่ ก็เลยต้องจัดเองซะเป็นส่วนใหญ่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรจนกลายเป็นงานอดิเรก  

บางทีทั้งคู่ก็อยู่บ้านทำงานอดิเรกไปพร้อมกันเพลินๆ (คนนึงเย็บผ้า ส่วนอีกคนเล่นว่าว ...) มาซาโนบุบอกว่า กว่าจะเป็นแชมป์มันก็ไม่ง่ายนะ ต้องฝึกอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง บางทีก็ต้องมีตัวช่วยอย่างหนังโป๊หรือเซ็กซ์ทอย เพื่อให้อยู่ตัวปึ๋งปั๋งได้นานๆ ...

ที่มา: http://www.fwdder.com/topic/371236

ผู้หญิงช่วยตัวเอง (มีหลายแบบ)

ก่อนเริ่มต้องแน่ใจว่าคุณมีเวลาเพียงพอโดยไม่ให้ใครมารบกวน พร้อมสถานที่ที่เหมาะสม หากร่างกายยังไม่พร้อมคงต้องพึ่งยาหล่อลื่นอีกสักหน่อยแล้วเริ่มบรรเลง... 

นิ้ว เครื่องมือสำคัญในการใช้ “ช่วยตัวเอง” เริ่มจากลูบไล้จุดเสียวซ่านต่างๆ ของร่างกาย อย่างหน้าอก หัวนม หน้าท้อง เรียวขา จนถึงจุดยุทธศาสตร์ บางคนอาจใช้นิ้วโป้งคลึงส่วนของคริตอริส แล้วใช้นิ้วกลางสอดใส่เข้าไปถึงจุด G-Spot (ปุ่มคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ อยู่ประมาณ 1 นิ้วจากปากช่องคลอด) แล้วขยับเข้า ออก... 

ดิลโด้ อุปกรณ์สุดฮิตที่สาวๆ หลายคนไม่พลาดที่จะเป็นเจ้าของ เพราะเจ้าดิลโด้นี้อาจทำให้คุณลืมผู้ชายคนรักได้เลยทีเดียว ดังนั้นก่อนตัดสินใจใช้วิธีนี้ช่วยตัวเอง ควรปรึกษาคนรัก หรืออ่านวิธีใช้อย่างละเอียด เพราะบางทีคุณอาจติดมันหนึบจนลืมมันยาก 

กล้วย สาวหลายคนยอมบอกว่าวันนี้จะจัดการเจ้าแอปเปิ้ลให้เป็นน้ำแอปเปิ้ลเย็นฉ่ำ แต่จะไม่บอกวิธีจัดการเจ้ากล้วยหอมผลยาวที่ตัวเองเลือกมาเป็นพิเศษลูกนี้เด็ดขาด วิธีการจัดการเจ้ากล้วยหอมลูกนี้ (ลูกที่ยังไม่สุก) แค่จับยัดเข้าไปในถุงยาง แล้วก็ใช้มันเคล้าคลึงให้ทั่วร่าง...อา.. 

ไส้กรอก เลือกไซส์ได้ตามใจชอบแบบนี้ สาวๆ เค้าชอบกันนักเพราะไม่เพียงแค่จะได้เลือกขนาดไส้กรอกที่ตัวเองชอบ ก่อนลงมือทำ แค่เอาเจ้าไส้กรอกไปอุ่นให้ร้อนพอดิบ พอดี ใครอยากใส่สีสัน หั่นเจ้าไส้กรอกให้เป็นคลื่น เป็นหยังเล็กน้อย ใส่เกราะให้สักหน่อย แล้วบรรเลง... 

ก้อนน้ำแข็ง เตรียมภาชนะใส่น้ำแข็ง แล้ววางไว้ข้างๆเตียงหรือที่ที่คุณพร้อม หลังจากนั้นใช้เจ้าน้ำแข้งก้อนเล็กๆ เหล่านี้ ถูไถไปทั่วหน้าอก วนกลมๆ บริเวณยอดทับทิม แล้วเลื่อนไหลลงมาถึงบริเวณจุดสำคัญของน้องหนู แค่นี้อุณหภูมิเย็นๆก็ช่วยให้คริตอริสเต็มไปด้วยพลังมหาศาลแล้ว จากนั้นมูฟ ออน.... 

โซฟา งานนี้คุณน้องสาวบอบช้ำน้อยที่สุด เพราะแค่ถูๆ ไถๆ ในท่านอนคว่ำ วิธีนี้อาจยากหน่อยสำหรับสาวที่ไม่รู้จักจุดกระสันของตัวเอง 

ฝักบัว วิธีนิยมอีกเช่นกัน แค่เพียงเปิดน้ำที่ผ่านฝักบัวให้ฟองฟู่ ปล่อยกระแสน้ำให้ผ่านจุดกระสัน และใช้นิ้วช่วยสัมผัส เคล้าคลึงบริเวณนั้น หรือใครที่มีอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำให้เต็ม แล้วใช้ขวดแชมพูเก่าที่ใช้หมดแล้วเติมน้ำให้เต็ม จัดให้ใกล้ตำแหน่งคริตอริส จากนั้นเริ่มบรรเลงฉีดน้ำให้ตรงเป้า...อืม... 

สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ของเบสิกที่ผู้หญิงหลายคนให้การยอมรับว่าช่วยได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การช่วยตัวเองแบบนี้ก็มีข้อควรที่ต้องระวัง เพราะวิธีแผลงๆ อาจเป็นอันตรายได้...เพราะอารมณ์คุกรุ่นขนาดนั้น สาวๆ ที่มีความต้องการสูงอาจจินตนาการเกินความเป็นจริง จนเกิดอันตรายแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ...

ช่วยตัวเอง มากเท่าไหร่ ถึงเรียกว่า มากเกินไป

มีหลายคนบอกว่า การช่วยตัวเอง เป็นกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเซ็กซ์ที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง แต่การช่วยตัวเองบางครั้งถ้ามากเกินไปอาจสร้างข้อเสียมากกว่าข้อดีที่หลายคนอาจไม่รู้ โดยทั่วไปแล้วเนี่ยปุถุชนคนธรรมดาอย่างคุณๆ ท่านๆ ต่อจะให้สวยหล่อมีชาติตระกูลดีเด่ขนาดไหน อย่างน้อยโดยเฉลี่ยในเดือนๆ หนึ่ง ต้องมีการช่วยตัวเองบ้างละ ส่วนจะกี่ครั้งกี่หน ก็แล้วแต่ความกำหนัดและความหงี่ที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน

สำหรับคนที่ทุกๆ วัน ต้องมีการช่วยตัวเองเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งหรือมากกว่านั้น พฤติกรรมแบบนี้เขาเรียกว่ามากเกินไปไหม ยิ่งโดยเฉพาะพวกที่ยังไม่มีคู่แต่อยากมีอยากอาวด้วยแล้วนั้น ความกลัดมันมันจะยิ่งพรั่งพรู ทำให้ตัวเลขการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง สูงถึง 3-4 ครั้งต่อวัน หลายคนจึงอยากรู้ว่า ช่วยตัวเองมากเท่าไหร่ถึงเรียกว่ามากเกินไป

คำตอบสำหรับการจะบอกว่า ช่วยตัวเองปริมาณเท่าไหร่ ถึงเรียกว่ามากเกินไปนั้น ดูแล้วอาจฟังดูเป็นคำตอบที่ไม่ยาก แต่มันไม่ง่ายเอาซะเลยจริงๆ ในการกำหนดระดับของการช่วยตัวเอง เพราะมันไม่เหมือนกับการกินข้าวที่องค์การอาหารและยากำหนดอัตราเฉลี่ยไว้ ส่วนจะช่วยตัวเองกี่ครั้งต่อวันถึงเรียกว่าเป็นระดับมาตรฐานมันไม่สามารถชี้ชัดออกมาเป็นตัวเลขได้ เพราะการช่วยตัวเอง มันเป็นเรื่องพฤติกรรมที่ซับซ้อนยากนักจะหยั่งถึง นอกจากนั้น มันยังสัมพันธ์กับหลากหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม หรือแม้กระทั่งจิตวิญญาณ และอะไรอื่นๆ หลายปัจจัย ที่ทำให้คำตอบการบอกว่า กี่ครั้งต่อวัน ถึงจะเรียกว่า มากเกินไปนั้น มันไม่สามารถทำได้

แต่คนที่จะบอกได้ว่า การช่วยตัวเองยังไง ถึงจะเรียกว่าเป็นการกระทำที่มากเกินไป คือตัวคุณเองต่างหาก เพราะร่างกายของคุณ คุณคือคนที่รู้ดีที่สุด บางทีการที่แค่ช่วยตัวเอง 1-2 ครั้งต่อวัน มันอาจน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับคุณ มีแต่ตัวคุณเพียงคนเดียวที่จะบอกกับตัวเองได้ เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กัน ในโลกต่างมีทรรศนะความเชื่อต่างๆ นานากับการช่วยตัวเอง เช่น บางศาสนาบอกว่า การกระทำชำเราตัวเอง เป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่บางความเชื่อก็มองว่า การช่วยตัวเองเป็นสิ่งที่ยอมรับได้โดยเฉพาะคนหนุ่มคนสาวหรือคนที่ยังโสด

การช่วยตัวเองที่ถือว่ามากเกินไป ไม่สามารถกำหนดได้ด้วยจำนวนครั้งที่คุณเสร็จด้วยตัวเองคนเดียวต่อวันหรือต่อสัปดาห์หรอกนะ คุณต้องขุดให้ลึกเพื่อวิเคราะห์ถึงนิสัยหลายอย่างของการช่วยตัวเองด้วยคำถามอย่างเช่น
1.ช่วยตัวเองแล้ว เกิดความเครียดไหม?
2.ช่วยตัวเองแล้ว ร่างกายได้รับความเจ็บปวดหรือมีส่วนเสียหายตรงไหนไหม?
3.ช่วยตัวเองแล้ว ร่างกายของคุณมีอาการบางอย่างที่ไม่ปกติอันเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการไหม?
4.ช่วยตัวเองแล้ว มันทำให้คุณเกิดอาการอยากช่วยตัวเองอีกโดยคุณไม่สามารถหยุดมันได้รึเปล่า?

ถ้าคำตอบของคุณคือ ใช่ แสดงว่าพฤติกรรมการช่วยตัวเองที่คุณกระทำอยู่มันถือว่ามากเกินไป การหาทางออกสำหรับ เรื่องดังกล่าวคุณควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณสามารถเล่าปัญหาของคุณให้ฟังได้อย่างสบายใจ

แต่ไม่ว่า ความเชื่อเกี่ยวกับการช่วยตัวเองจะเป็นยังไง แต่สัจธรรมหนึ่งอย่างที่บอกได้คือ การช่วยตัวเองมีส่วนสำคัญสำหรับสุขภาพเซ็กซ์ เพราะการช่วยตัวเองนั้น ถ้าอยู่ในระดับที่พอเหมาะก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายทำให้สุขภาพจิตใจและร่างกายได้รับการปลดปล่อย สบายตัวขึ้น และหัวสมองโล่งเบาหวิว

ที่มา : mthai.com

ผลดี! ผลเสีย! ของการช่วยตัวเอง เพศชาย!

ช่วยตัวเองทำให้ "เป็นสิว" ช่วยตัวเองทำให้ "ตัวเตี้ย" ช่วยตัวเองทำให้ "ตาบอด" ช่วยตัวเองทำให้ "น้ำอสุจิหมด"  สารพัดปัญหาเรื่อง “ ช่วยตัวเอง ” เป็นคำถามยอดฮิตของ ผู้ชายทั้งหลาย ก่อนอื่นควรรู้ก่อนว่าการ “ ช่วยตัวเอง ” มีทั้ง ผลดีและผลเสีย

ผลดี ก็คือ เป็นการผ่อนคลายจากการตื่นตัวทางเพศ ไม่ตั้งท้อง และไม่ติดเชื้อเอดส์ ถือเป็นกิจกรรมทางเพศที่เหมาะสมที่สุด

ผลเสีย คือ เสียแรง และเสียเวลา ถ้านอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ที่สำคัญไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ " ไข่ดำ ตัวเตี้ย สูงช้ากว่าปกติธรรมชาติ เป็นสิว ตาบอด น้ำอสุจิหมด " หรืออะไรก็ตามที ยกเว้นเสียแต่ว่าจะ “ช่วยตัวเอง” แบบแผลงๆ หรือแปลกประหลาดพิสดาร ใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือทุ่นแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายเข้าช่วย หรือหมกมุ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร ถ้ารู้สึกว่าตัวเองปฏิบัติมากเกิน ไป และอยากลด-ละ-เลิก แนะนำว่าค่อยๆ ฝึกให้ลดน้อยลง จากวันละ 2-3 ครั้ง ลงเหลือ 1-2 ครั้ง ต่อมาก็ค่อยๆลดลงไป  ข้อมูลจาก : NooB

การสำเร็จความใคร่ช่วยลดความซึมเศร้าและผ่อนคลายได้และยังช่วยสร้างความพึงพอใจในตนเอง (Hurlbert & Whittaker, 1991) การสำเร็จความใคร่ยังมีส่วนในการรักษาสัมพันธภาพ กล่าวคือ ถ้าความต้องการทางเพศของสองฝ่ายไม่เท่าเทียมกัน การสำเร็จความใคร่จึงเป็นทางออกเพื่อรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสอง

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ทีมวิจัยจากออสเตรเลียนำโดย Graham Giles ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่องความถี่ในการสำเร็จความใคร่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และการหลั่งน้ำอสุจิจากการสำเร็จความใคร่ก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าหลั่งจากการร่วมเพศ เพราะการร่วมเพศอาจทำให้ได้รับโรคติดต่อซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง

จากงานวิจัยของ Stuart Brody พบว่า ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด คนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จะมีความดันเลือดต่ำกว่าคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์และสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมาก่อน 1 วันหรือมากกว่า (Brody, 2006)

การสำเร็จความใคร่ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายอาจก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ถ้าน้ำกามสัมผัสกับแคม (อวัยวะเพศ) การสำเร็จความใคร่อาจเป็นการกระจายโรคติดต่อหากมีการสัมผัสของเหลวจากร่างกาย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสของเหลวจากอีกฝ่ายหากยังไม่แน่ใจว่าเป็นโรคหรือไม่ วัตถุที่ใส่ไปในช่องคลอดหรือรูทวารต้องสะอาดและไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ไม่ควรนำวัตถุใดๆใส่เข้าไปในรูทวารหรือช่องคลอดทั้งอัน หรือวัตถุที่ร้อนหรือเป็นครีบ มิฉะนั้นแล้ว อาจจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อนำวัตถุนั้นออกมา ดิลโด้สมัยใหม่จึงมักถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น เช่น ไม่สามารถสอดเข้าไปทั้งอันได้โดยง่าย เป็นต้น

ความเย้ายวนให้สำเร็จความใคร่อาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการติดใจในเพศรส ซึ่งมีผลทำให้บุคคลที่มีอาการดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีความต้องการทางเพศสูงกว่า และ/หรือ บ่อยครั้งกว่าบุคคลปกติทั่วไป

นอกจากนี้ มีการค้นพบว่า โดยพบความผิดปกติทุกกรณี 1ต่อ100คน ทั้งนี้ส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำให้อวัยวะเพศโค้งงอนั้น มาจากการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ หรือการช่วยตัวเองอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดการฉีกขาดตรงบริเวณปอกของเนื้อ เยื่อที่ทำให้อวัยวะเพศขยายตัว แต่ไม่ถึงกับหัก มีเพียงรอยแผล และเกิดเป็นแผลเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด นอกจากนั้นมีจำนวนเล็กน้อยที่เกิดจากผลข้างเคียงจากการรับประทานยาลดความดัน   ข้อมูลจาก : Wikipedia

ข้อดี

1 เพลิดเพลิน

2 คลายเครียด

3 ลดปัญหาอาการ ฝันเปียก

4 น้องชายแข็งแรง สู้ทุกสถานะการ์ณ

5 ทำให้เรา รู้จัก อนาโตมี้ของมนุษ์ย ชาย และ หญิง

6 ข้อมือแข็งแรง

7 รู้จักการเข้าจังหวะ ช้าและเร็ว

8 ทำให้ระบบ ขับถ่ายทำงานหลังการเล่น

9 หลับสบาย

10 รู้จักการ จินตนการ

ข้อเสีย

1 รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตนเอง และมักคิดว่าต่อไปจะไม่เล่นอีกแล้ว แต่ก็นะ

2 อารม์ณจะหวั่นไหวง่าย จะนึกอยากเล่นทุกครั้งถ้าโอกาสเป็นใจหรือจะอ่อนไหวต่อ ภาพที่ยั่วยุมากกว่าคนที่ไม่ค่อยเล่น และ ไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นทำ

3 ถ้าเล่นมากไปก็ตัวเหลือง 

4 เปลื้องน้ำและกระดาษทิชชู

5 จะเกิดอารม์ณ อยากดูถ้าเข้าเนทหรือเดินผ่านหนังสือปลุกใจเสือป่า มากกว่าคนปกติ

6 คนที่เล่นบ่อยๆมัก ชอบดูภาพในแบบ แอบๆมากกว่า โจ่วครึม(จะๆ)

7 หน้าใส่ แจ๋วหลังการเล่น(ข้อนี้ไม่รู้ดีหรือเสีย)

8 มักหงุดหงิด เมื่อมีคนมาขัดจังหว่ะการเล่น

9 จินตนการมักคิดไปในแง่x เมื่อเห็นผู้หญิง(มากกว่าคนปกติ)

10 มักหงุดหงิด(อีกแล้ว) ถ้าเปิดเข้าเวปโป๊เพื่ออัพเดทรูปใหม่ๆ

ส่วนที่ถามว่า เล่นมากจะเตี้ยหรือมีผลหรือไม่นั้น

ถ้าไม่มากไปน้อยไป ก็ไม่มีผล แต่ถ้าหมกมุ่นจนเกินไป มีแน่นอน

เพราะใน น.ว จะมีทั้งโปรตีนและน้ำตาล 9ล9 เพื่อใช้ในการสร้าง

แต่ก็มีบางสถาบันยืน ยันว่านักเพาะกายมักกลัวการเล่น ว่าว เพราะกลัว

มีผลกับกล้ามเนื้อ แต่จากการ สรุปปรากฏว่านักเพาะกาย2กลุ่ม กลุ่ม1

เล่นกับอีกกลุ่มไม่เล่น พบว่ากลุ่มที่เล่น มีกล้ามเนื้อที่สมบรูณ กว่า 

ข้อมูลจาก : Pramoo

10 วิธีช่วยตัวเองของผู้ชาย

เอาจากที่รวบรวมมาในเว็บต่างๆก็แล้ว กัน..หลายๆคนอาจเคยลองแล้ว..ก็ถือเป็นอานิสงฆ์ให้คนที่ไม่เคยลองก็แล้วกัน ..ถ้าเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ดีกว่าไปข่มขืนให้เดือดร้อนทั้งเราทั้งคนอื่น(เอ๊ะ..คนที่เข้าเว็บ นี้จะไปข่มขืนใครได้ล่ะ)

• 1.ถ้าเบื่อมือขวา ลองใช้มือซ้ายแทน ถึงจะไม่ถนัดนักแต่จะรู้สึกเหมือนมีมือคนอื่นมาทำให้
• 2.ถ้าใครเคยใช้แต่มือ ลองใช้ท่อนลำบดหมอนข้าง..หรือบดขยี้ที่นอนดู(หลายคนลองมาแล้ว)
• 3.เคย อ่านว่าบางคนใช้เนื้อหมู คงจะเป็นชิ้นใหญ่ๆ(เป็นกิโล)มาผ่าให้เป็นรูแล้วสอดใส่เข้าไป แต่คงฉุกละหุกน่าดูน่าจะมีถุงยางหรือใช้ถุงพลาสติกห่อเนื้อไว้จะได้ไม่เลอะ
• 4.หลาย คนในเว็บนี้บอกว่าลองเปลี่ยนสถานที่ดู จากเดิมๆที่ใช้ห้องน้ำ หรือห้องนอนในบ้าน ลองใช้ห้องน้ำปั๊มน้ำมัน ห้องน้ำห้าง..ห้องน้ำโรงเรียน..ห้องน้ำที่ทำงาน..ในป่า ฯลฯจะได้บรรยากาศแปลกๆที่แสนตื่นเต้น
• 6.ถ้าใครที่ถนัดยิม..ลองก้ม ลงมาจนถึงท่อนลำแล้วใช้ปากของคุณจัดการกับท่อนลำนั้นของคุณเอง...เองจะเสียว ได้ดั่งใจ..ฝรั่งที่เป็นยิมชอบมากๆ
• 7.หมอนขวาน(หมอน 3 เหลี่ยม) ด้านข้างจะมีรู(เลือกหมอนที่เก่าๆหน่อยแล้วกันจะได้นิ่มๆ)ใส่ถุงยางที่ท่อนลำของคุณแล้วสอดเข้าไปที่รูของหมอน หาสถานที่ที่เหมาะๆ แล้วโยก...ผลเป็นไงช่วยตอบลงในเว็บด้วย(คนที่ทำบอกว่าเสียวสุดๆ)
• 8.ถ้า คุณขับรถประจำ เวลาฝนปรอยๆ(รถและคนไม่ค่อยมี) หรือตอนที่แสงสว่างน้อยๆ(โพล้เพล้หรือมืดๆ)หรือที่เปลี่ยวๆลองรูดซิปกางเกง ลงแล้วใช้ มือ รูดเข้ารูดออกจนเสียวเสร็จ...คุณจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่ไม่เคยมีเซ็กส์อยู่กับที่ แต่ถ้าคนที่พึ่งหัดขับไม่ควรลอง
• 9.คน ที่ใช่แต่มือข้างเดียว ลองใช้ 2 มือสิ โดยให้มืออีกข้างกำ ค...รูดเข้ารูดออก ส่วนอีกข้างให้แหย่ที่ประตูหลังของคุณ(ข้างนี้ควรหาอะไรหล่อลื่นด้วย เช่น น้ำลาย ยาสระผม โลชั้น )ทั้ง 2 มือเข้าๆออกๆ เดี๋ยวก็เสร็จ
• 10.ไป ห้องน้ำตามห้างเจอคนหน้าตาดีๆ ยืนอยู่หน้าโถปัสสาวะ แล้วเขามองคุณ คุณสบตาเขา..ยิ้มให้กัน เข้าใจตรงกัน ก็ให้เลือกใช้ห้องส้วมที่ว่างๆ ก็แล้วกันแนะนำให้เลือกใช้ห้องสุดท้าย อย่างน้อยคนไม่พรุกพร่าน รีบทำให้เสร็จ แต่พึงระวังพวกแอบถ่าย(รูป)ให้ดีก็แล้วกัน

“ช่วยด้วย”…ช่วยตัวเองด้วยค่ะ?

โดย พี่แพ็ท ขอขอบคุณภาพตกเบ็ดจาก คู่มือวัยใส เพื่อนๆเรียกกันว่า "ตกเบ็ด" บางคนก็เรียกว่า "ช่วยตัวเอง" ในหนังสือเขียนไว้ว่า "การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง" ในดิกชันนารีภาษาอังกฤษก็ใช้คำว่า "Masturbation" (แต่ไม่มีใครสักคน ให้ความกระจ่างกับเราเรื่องนี้เลย! ใจร้ายจริงๆ!) พี่แพ็ทจะเล่าให้ฟังค่ะ...            คำทั้งหมดที่ว่ามานี้ ใช้เรียกวิธีการผ่อนคลายความรู้สึกทางเพศด้วยตนเอง ทำไมต้องผ่อนคลายหรือจ๊ะ ก็เพราะว่า ทั้งหญิงและชาย เมื่อเราอายุย่าง 11-13 ปี ร่างกายเติบโตขึ้น ฮอร์โมนเพศก็จะเริ่มทำงานซึ่งก็ส่งผลให้เกิดความรู้สึกทางเพศ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ กิจกรรมหรือวิธีการใดๆเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกทางเพศ ก็เป็นเรื่องธรรมชาติเช่นกัน การช่วยตัวเองนั้น อาจเริ่มต้นเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับแต่ละคน มีหลายคนที่ยังไม่เริ่มต้นจนอายุ 20 ปีก็มีค่ะ            การช่วยตัวเอง จะไม่ส่งผลเสียอะไรกับผู้หญิงเลย ยกเว้นเสียแต่ว่า น้องจะรู้สึกเองว่ามันไม่ดีจนทำให้รู้สึกผิดไปเอง พี่แพ็ทว่านะ ผู้หญิงเราน่าจะมองการช่วยตัวเองเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะเรียนรู้ร่างกายและอารมณ์ของตัวเอง เป็นบทเรียนแรกๆในเข้าใจเรื่องเซ็กส์ในอนาคต และ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งเมื่อไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นๆด้วย แล้วทำอย่างไรคะพี่แพ็ท?         คำถามยอดฮิตนี้ ไม่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่อยากรู้ แต่ผู้ชายก็อยากรู้ด้วยเช่นเดียวกัน (มีผู้ชายกำลังอ่านอยู่ด้วยใช่ไหมล่ะ) อันดับแรก น้องต้องเข้าใจก่อนว่า การช่วยตนเอง เป็นไปเพื่อ "ผ่อนคลาย" ความรู้สึกทางเพศของตัวเอง และแน่นอน..ไม่ใช่การไปทำอะไรอะไรที่อวัยวะเพศของเราเท่านั้น การช่วยตัวเองเพื่อผ่อนคลายมีทางเลือกหลายทาง เช่น          1. ผ่อนคลายโดยสัมผัสส่วนต่างๆของร่างกายด้วยตนเอง เช่น ลำแขน ต้นขา หน้าอก หน้าท้อง แก้ม แผ่นหลัง ฯลฯ รวมทั้งที่อวัยวะเพศก็ได้         2. ผ่อนคลายโดยให้ร่างกายสัมผัสกับธรรมชาติ เช่น สายลมอ่อนๆลูบไล้เส้นผม สัมผัสไอเย็นๆของหุบเขา เดินทอดน่องลมโชยบนชายหาด หรือแม้กระทั่งการอาบน้ำลูบไล้เนื้อตัวอย่างทะนุถนอม        3. ผ่อนคลายโดยเลือกทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ เช่น ว่ายน้ำ อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ เดินห้างฯพบปะเพื่อนฝูง โทรเจ๊าะแจ๊ะ หรือ กินกินกิน        หลายๆวิธีที่กล่าวมาข้างต้น ไม่จำกัดเฉพาะผู้หญิงนะคะ ผู้ชายจะนำไปใช้ก็ได้เช่นกันค่ะ แล้วถ้าเลือกผ่อนคลายแบบสัมผัสตัวเองล่ะคะ?         คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตของ teenpath.net มักถามประมาณว่า "พี่แพ็ทจ๋า...แล้วต้องทำอย่างไรที่จิ๋มของน้องบ้างคะ?" ก่อนอื่น น้องต้องเข้าใจว่า การลุยไปสัมผัสที่อวัยวะเพศของตนเองนั้น มันจู่โจมเกินไป โดยทั่วไป ก่อนที่จะไปถึงที่บริเวณอวัยวะเพศ มักจะต้องเริ่มจากการสัมผัส-ลูบไล้ส่วนต่างๆของร่างกายก่อน เพราะว่าส่วนต่างๆของร่างกายของเรา ก็ล้วนมีประสามสัมผัสที่ทำให้เราเกิดอาการผ่อนคลายได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแขน แผ่นหลัง หน้าอก หน้าท้อง ขาอ่อน หรือส่วนอื่นๆที่ทำให้เรารู้สึกเสียวซ่านหรือจั๊กกะจี้ (สองความรู้สึกนี้จะไปด้วยกันนะ) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่วนตั๊วส่วนตัวจริงๆนะ เพราะส่วนต่างๆของร่างกายแต่ละคนจะรู้สึกต่อสัมผัสไม่เหมือนกัน          เมื่อมาถึงที่อวัยวะเพศ จะมีจุดที่ไวต่อความรู้สึก คือ "ปุ่มคริสตอริส" (หรือมักจะเรียกอีกอย่างว่าปุ่มกระสันค่ะ) อยู่ระหว่างรูปัสสาวะกับช่องคลอดจ้ะ(มาถึงตรงนี้ ก็ต้องศึกษาแล้วใช่ไหมว่าส่วนที่พี่แพ็ทว่ามานั้นอยู่ตรงไหน ระหว่างนี้จะส่องกระจกดูตามไปด้วยก็ได้นะจ๊ะ การเรียนรู้และทำความเข้าใจอวัยวะเพศและอารมณ์ทางเพศของตนเองเป็นการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งในชีวิต)           การสัมผัสที่จิ๋ม ก็คือ ใช้นิ้วมือสัมผัสอย่างอ่อนโยนที่คริสตอริส บริเวณรอบๆที่เรียกว่าแคมนอกและแคมใน หรือ ใช้นิ้วมือลูบไล้เคลื่อนไหวเข้าออกในบริเวณช่องคลอดอย่างนุ่มนวล ที่พี่แพ็ทบอกว่าต้องสัมผัสอย่างอ่อนโยนเพราะว่าบริเวณนี้เปราะบางมากนะจ๊ะ ทางที่ดีการสัมผัสควรจะใช้ร่วมกับเจลที่ทำให้เกิดความลื่น (แบบที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย-ไม่ใช่น้ำมัน โลชั่นทาตัวก็ใช้ไม่ได้นะ เจลที่มีน้ำเป็นตัวทำละลายหาซื้อได้ตามร้านขายยาค่ะ) และที่สำคัญ เล็บมือต้องสั้นและสะอาดด้วย เพื่อไม่ให้ของรักของหวงช้ำหรือถูกขีดข่วนได้           การช่วยตัวเองของผู้หญิงเพื่อให้ถึงจุดสุดยอด มักจะต้องใช้เวลาและยากกว่าผู้ชายจ๊ะ แต่หากผู้หญิงได้ค้นพบวิธีการว่าทำอย่างไรที่ให้รู้สึกดีพึงพอใจ และเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้รู้สึกไม่ดี (โดยเฉพาะความไม่รู้ ความรู้สึกกลัว และความกระดากอายต่อเนื้อตัวร่างกายของเรา) ประสบการณ์ในการค้นพบส่วนตั๊ว-ส่วนตัวนี้ จะทำให้น้องสาวของพี่แพ็ทสามารถผ่อนคลายความรู้สึก และเข้าใจเรื่องจุดสุดยอดของตัวเองได้มากขึ้น  ทัศนะที่ดีต่อตัวเอง เริ่มที่ตัวเราเอง...        การช่วยตัวเองของผู้หญิงมักถูกมองว่าน่าอาย ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้ผู้หญิงที่ทำรู้สึกว่าผิดปกติ หรือ ทำไม่ถูก (แต่ผู้ใหญ่ก็มักไม่ได้ให้ทางออกว่า ที่ถูกคืออะไร! ไม่รู้ว่าที่ถูกคือ ให้ไปผ่อนคลายโดยการไปมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม หรืออย่างไร?)         พี่แพ็ทว่านะ การช่วยตัวเอง เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เราเรียนรู้ร่างกายและอารมณ์ของเราเองด้วย ทำให้เราเข้าใจความต้องการทางเพศของตัวเอง รู้จักวิธีที่จะผ่อนคลาย และวิธีควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ด้วย น้องหลายคนที่กลัวท้อง กลัวติดเชื้อโรค หรือกลัวว่าจะเสียการเรียนหากไปมีเพศสัมพันธ์เมื่อเรายังไม่พร้อม ก็สามารถใช้วิธีนี้เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ทางเพศของตนเองได้        จนถึงเวลาเมื่อเราพร้อมที่จะมี "เพศสัมพันธ์" กับอีกคน เราก็จะมีความเข้าใจ "สัมพันธ์ทางเพศ" มากยิ่งขึ้น ด้วยรักและผูกพัน พี่แพ็ท

เครดิต:http://www.teenpath.net/content.asp?ID=4226#.UP652yftSYQ